รีวิวเกม Spellbreak ระเบิดศึกสงครามจอมเวทย์

รีวิวเกม Spellbreak เกมใหม่ล่าสุดแนว Battle Royale ที่เปิดให้บริการในเวอร์ชั่น Global จากทีมพัฒนา Proletariat และเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายด้วยเช่นกัน ซึ่งเปิดตัวสำหรับแพลตฟอร์ม Playstation 4, Xbox One, Nintendo Switch และ PC ผ่านร้านค้าออนไลน์ชั้น Epic Games Store
ในวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้วันนี้ GameMonday ของเราจะพาเพื่อนๆ ไปชมรีวิวกันว่า เกมนี้เจ๋งมากแค่ไหน

พื้นฐานแล้ว ก็เป็นเกมแนว Battle Royale เอาชีวิตรอด ที่ผู้เล่นจะต้องต่อสู้กับผู้เล่นอื่น แล้วเหลือเป็นสุดท้าย หรือทีมสุดท้าย แต่สำหรับเกมนี้ จะสามารถบรรจุต่อ รอดได้มากสุด 42 คนเท่านั้นหลายๆ คนอาจจะตั้งคำถามในใจว่า ทำไมถึงมีแค่ 42 คนต้องบอกเลยว่า ถ้าลองเล่นเองแล้วจะรู้ว่าทำไม
ตอนแรกผมก็เป็นหนึ่งคนที่คิดแบบนั้น เกมค่อนข้างที่จะฆ่ากันยากพอสมควร แถมมีลูกเล่นทั้งบิน ลอย วาร์ป กระโดด หายตัว และอื่นๆ อีกมากมาย ที่จะช่วยเอาชีวิตรอดได้ ทำให้การฆ่ากัน แต่ละครั้งใช้เวลานานพอสมควร ซึ่งวงสุดท้ายบางครั้งเหลือเกิน 20 กว่าคนเลยเห็นได้อยู่เป็นประจำ

วิธีการโดดของเกม จะไม่เหมือนกับเกม Battle Royale อื่นๆ ที่จะมาพร้อมกัน แล้วก็โดด ๆ ลงไปแต่อันนี้ เมื่อเกมเริ่ม จะให้เลือกจุดเกิดทันที แล้วเราจะกระโดดลงไปจากฟ้า ก็เป็นสิ่งที่แปลกใหม่ดี

ตัวงานภาพ Graphics และ Effect ของเกม จัดว่าทำออกมาได้ไม่เลว ตัวเกมจะเป็นสไตล์ตัวละครการ์ตูนภาพ แบบตะวันตกพิมพ์นิยมพอสมควร แต่มีลูกเล่น คือความอลังการของสกิล Effect ที่เห็นแล้วบอกเลยว่า มันจอมเวทย์จริง ๆ
พวกสกิลธาตุต่าง ๆ ยังสามารถสร้างเป็นคอมโบ หรือแก้ทางกันได้อีกด้วย มันเลยเป็นความสนุก ที่เป็นเอกลักษณ์ของเกม Spellbreak เป็นอย่างมาก ในเรื่องภาพกราฟิก และองค์ประกอบบอกเลย ว่าไม่ธรรมดา

ในเรื่องของทักษะเวทมนตร์ จะถูกแบ่งออกเป็น 6 คลาสหลักๆ ได้แก่ Frostborn, Conduit, Pyromancer, Toxicologist, Stoneshaper และ Tempest พูดง่ายๆ ก็คืออิงจากธาตุต่างๆ ไฟ น้ำแข็ง ลม สายฟ้า หิน และ พิษ
แต่ละคลาสก็จะมีจุดเด่นของตัวเอง ที่แตกต่างกันออกไปยกตัวอย่างเช่น Tempest ลม ที่จะโจมตีได้รวดเร็ว เคลื่อนไหวกลางอากาศได้ดี แต่ดาเมจเบา หรือ น้ำแข็งโจมตีระยะไกล ได้สร้างดาเมจได้รุนแรง แต่ยิงช้าและยาก อะไรประมาณนี้ต้องลองศึกษากันเพิ่มเติมดู

นอกเหนือจากการเลือกคลาสแล้วตัวเกม ยังออกแบบ Talent ให้ผู้เล่นได้ Builds ตามสไตล์ของตัวเองได้อย่างอิสระ พูดง่ายๆ ระบบนี้ก็เหมือนเป็นการเพิ่มฟังก์ชั่นเสริม ให้กับตัวละครของเราให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยรูปแบบต่าง ๆ โดยฟังก์ชั่นละอัน จะมีเงื่อนไขในการปลดล็อกอยู่ สรุปง่าย ๆ ก็คือต้องเก็บเลเวลทุกคลาสให้ Lv.6 ถึงจะปลดล็อก Talent ทุกอันได้

เป็นเกมในรูปแบบ Free to Play ทำให้พวกเขาไม่พลาดที่จะมีการนำชุดแฟชั่นต่างๆ มาวางจำหน่ายมีทั้ง ชุดตัวละคร, แสงกระโดด, แสงตอนโดดร่ม, Emote หรือ Card ที่แสดงชื่อและ Level ของตัวละครของเรา ในตอนนี้ อาจจะมีให้เลือกซื้อน้อย เพราะเกมยังเปิดใหม่ ๆ อยู่แต่เชื่อเถอะ อีกหน่อยมีให้เลือกซื้อเยอะแน่นอน

โดยรวม Spellbreak เป็นเกมที่เล่นยากในระดับหนึ่งเลย ความยากในที่นี้ มาจากวิธีการยิงของแต่คลาส ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งตัวละครแต่ละคนจะมี Mobility ที่สูงมากทำให้การที่จะยิงนั้นยากนั่นเอง การเดาการเคลื่อนไหวของศัตรู ดูจังหวะ ถือว่าสำคัญมากๆ รวมไปถึงความแม่นยำในการใช้สกิลอีกด้วยถือว่าเป็นหัวใจหลักในการพิชิตที่หนึ่งเลย